ถ้าจ้างช่างมาทาสีให้ก็คงต้องเสียอีกหลายตังค์ คิดๆ ดูแล้วเรื่องทาสีนี่ก็ไม่น่ายากนะ ลองหาข้อมูลในอินเทอร์เนตก็เจอข้อแนะนำดีๆ จาก www.homeandi.com ทำให้ฉันมั่นใจว่าสามารถทาสีผนังบ้านได้เองแน่ๆ
งานทาสีภายในขั้นตอนที่ยุ่งยากที่สุดก็คือการเตรียมพร้อมก่อนที่จะทา การอุดรอยแตกที่ผนัง การทำให้ผนังราบเรียบพร้อมที่จะทาสี แต่เมื่อพร้อมแล้วการลงมือทาก็ไม่ยากเย็นนัก อาศัยความปราณีต ละเอียดอ่อนเสียหน่อย จะช้าอยู่ใย ไปเตรียมสี แปรงและลูกกลิ้งเพื่อสร้างสีสันสดใสให้ห้องอีกครั้ง
1. การทาสีด้วยลูกกลิ้งนั้นมีเคล็ดลับบางอย่าง นั่นคือให้จุ่มลูกกลิ้งลงในถาดสีให้ชุ่ม จากนั้นให้ลองกลิ้งไปกลิ้งมาในถาดสีนั้น วิธีนี้จะเป็นการทำให้สีกระจายสม่ำเสมอทั่วลูกกลิ้ง เพื่อที่เมื่อคุณทาผนังแล้วจะได้สีที่มีความหนาสม่ำเสมอ
5. การทาสีที่ขอบมุมของงานไม้ (เช่น กรอบหน้าต่าง) ด้วยแปรงนั้น อย่าลืมกันบริเวณใกล้ ๆ ที่คุณไม่ได้คิดที่จะทาสีไว้ด้วย ก็เช่น พวกบานกระจกหน้าต่างนั่นไงล่ะ ใช้กระดาษกาวติดไว้ตรงขอบของบริเวณที่คุณจะทา เมื่อทาสีเสร็จค่อยแกะเทปกาวนี้ออกขณะที่สียังเปียกอยู่
7. เรียนรู้เคล็ดลับต่าง ๆ แล้วก็มาลงมือทำจริง ๆ จัง ๆ เสียที ก็เหมือนหลักการทั่ว ๆ ไปนะที่ต้องเริ่มจากบนลงมาข้างล่าง นั่นก็คือเริ่มมาจากเพดานเลย (ในกรณีที่คุณคิดจะทาสีเพดานด้วย) ให้เริ่มทาสีเพดานจากขอบ ๆ ที่ติดกับผนังก่อนด้วยแปรง ทาออกมาสัก 2-3 นิ้วจากนั้นก็เก็บที่เหลือด้วยลูกกลิ้ง
8. วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทาสีเพดานคือการใช้ลูกกลิ้งต่อไม้ให้ยาว ๆ ให้เพียงพอที่คุณจะทาสีเพดานได้ เริ่มจากบริเวณมุม ๆ ของห้องก่อน โดยทาตามแนวด้านแคบของห้องไปจนเสร็จ
9. รอจนเพดานแห้ง คราวนี้ก็ได้เวลาของผนังห้องแล้ว ใช้แปรงทาจากขอบ ๆ ก่อน ก็บริเวณที่ติดกับเพดานและก็กรอบประตู กรอบหน้าต่างนั่นแหละ
11. เมื่อผนังแห้งแล้ว ก็เริ่มทากรอบหน้าต่างได้เลย โดยเริ่มจากแถบไม้ขวางและเดือยไม้รางขวางด้านบนและล่างก่อน จากนั้นจึงทาวงกบและขอบพับ วงกบที่ปิดเข้ากรอบและกรอบด้านนอก
12. ส่วนประตูนั้นถ้าเป็นแบบประตูลูกฟักให้เริ่มจากทาตามช่องสี่เหลี่ยมก่อน จากนั้นจึงไล่ทามาที่แถบไม้ขวางและดิ่งจากบนลงล่าง ปิดท้ายด้วยการทาบริเวณกรอบของประตูให้เรียบร้อย
No comments:
Post a Comment